นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY POLICY)
มูลนิธิ แมค แฮปปี้ แฟมิลี่
(Mc Happy Family Foundation)

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY POLICY)

มูลนิธิ แมค แฮปปี้ แฟมิลี่ (“มูลนิธิ/เรา”) มีวัตถุประสงค์ในการมุ่งให้ความช่วยเหลือเด็กที่เจ็บป่วยและครอบครัว เพื่อดูแลด้านจิตใจให้เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการดำเนินงานของมูลนิธิมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นทาง Offline หรือ Online จากการให้บริการหรือการจัดกิจกรรมของมูลนิธิ หรือผ่านทางเว็บไซต์ https://rmhc.or.th/th/ รวมไปถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มูลนิธิขอเรียนว่า มูลนิธิ เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่ละท่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราจึงต้องการที่จะชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


1. นิยาม

นิยาม ความหมาย
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อม ใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เป็นต้น
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
คณะกรรมการ หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของมูลนิธิส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมูลนิธิมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบาย หมายถึง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิฉบับนี้และที่อาจจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม
มูลนิธิ หมายถึง มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย (Ronald McDonald House Charities Thailand) หรือ RMHC Thailand จดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2544 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิ แมค แฮปปี้ แฟมิลี่”
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล    หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม
สำนักงาน หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
IP Address หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล ในการสื่อสาร

2. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่มูลนิธิ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการกำหนด) ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับมูลนิธิโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิได้รับจากการให้บริการหรือการดำเนินงานของมูลนิธิผ่านทุกช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ rmhc.or.th การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิ คุกกี้ ข้อมูลการทำรายการ และประสบการณ์การใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด เช่น

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

มูลนิธิจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการกำหนด) ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับมูลนิธิโดยตรงหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิได้รับจากการให้บริการหรือการดำเนินงานของมูลนิธิผ่านทุกช่องทาง ดังนี้

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

ในการดำเนินงานหรือให้บริการของมูลนิธิ หรือการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิในบางกรณี มูลนิธิมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม หรือข้อมูลชีวภาพและข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ มูลนิธิจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิต่อไป

(ต่อไปในนโยบายฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจง จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)

3. วิธีที่ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการต่อไปนี้

3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่มูลนิธิโดยตรง ทั้งการเก็บข้อมูลจากการใช้บริการ รวมถึงการเยี่ยมชม การติดต่อ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ ซึ่งรวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับ

(ก) เมื่อแสดงเจตนาจะใช้บริการของมูลนิธิ การสมัครรับข่าวสาร รวมถึงการลงทะเบียนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ได้จากการส่งเอกสารและใบสมัครต่าง ๆ เพื่อใช้บริการ หรือลงทะเบียน หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลขณะที่พิจารณาใช้บริการต่าง ๆ ของมูลนิธิ รวมถึงเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับมูลนิธิไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา ไม่คำนึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อก่อนก็ตาม

(ข) เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่ ตัวแทน นายหน้า ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิ ผ่านทางเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด

(ค) เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่มูลนิธิเพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของมูลนิธิ หรือบุคลากรและคู่ค้าของมูลนิธิ


3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น โรงพยาบาล พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งมูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่มูลนิธิมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึง

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการต่าง ๆ ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน ตัวแทน คู่ค้า พันธมิตร รวมถึงโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ (Non-Public Records) ที่มูลนิธิมีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย

(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของมูลนิธิ ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address MAC address Cookie ID IMEI รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยการใช้คุกกี้

(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย


โดยทั่วไปมูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เว้นแต่บางกรณีที่มูลนิธิอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่มูลนิธิมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด

หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ มูลนิธิจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดก่อนมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์หรือบุคคลไร้ความสามารถ ทั้งนี้ มูลนิธิจะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล

มูลนิธิมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้


4.1 เพื่อให้บริการ การปรับปรุงบริการของมูลนิธิ รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว

4.2 เพื่อการทำรายการตามวัตถุประสงค์ที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมเว็บไซต์ของมูลนิธิ

4.3 เพื่อการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของมูลนิธิ เช่น การสมัครสมาชิก การเข้าพักที่บ้านพักของมูลนิธิ หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

4.4 เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างมูลนิธิกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.5 เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการของมูลนิธิ

4.6 เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากมูลนิธิ หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของมูลนิธิ

4.7 เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้กับมูลนิธิ

4.8 เพื่อการดำเนินกิจการของมูลนิธิ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการ การวิเคราะห์ด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรม การพิจารณา และการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของมูลนิธิ

4.9 เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมในการตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย ตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่ บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ปกป้องการดำเนินงานของมูลนิธิ ปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของมูลนิธิ บุคคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น เยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

4.10 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

4.11 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกำหนด


ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการแจ้งเมื่อมูลนิธิมีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น มูลนิธิจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตาม ข้อ 4. เฉพาะเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้:

1. ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับมูลนิธิตามกฎหมาย
2. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
3. เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
4. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของมูลนิธิ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่มูลนิธิ
5. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
7. เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยมูลนิธิจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

ในกรณีที่มูลนิธิต้องขอความยินยอมจากท่าน ก่อนที่มูลนิธิจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน มูลนิธิจะทำการขอความยินยอมจากท่านก่อน โดยการขอความยินยอมมูลนิธิจะทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่มูลนิธิจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มูลนิธิจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับมูลนิธิหากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถือเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การให้ความยินยอมของท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนท่านด้วย หากผู้จะให้ความยินยอมนั้นเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง

ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ต้องขอความยินยอมจากผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถนั้นแล้วแต่กรณี

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ มูลนิธิ จะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ มูลนิธิจะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม

5. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 การเก็บรวบรวมส่วนบุคคล

มูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตามที่มูลนิธิได้แจ้งไว้ในข้อ 4. มูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้จนกว่าท่านจะแจ้งยกเลิกการเก็บข้อมูล มูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ มูลนิธิได้แจ้งไว้ใน ข้อ 4.

5.2 การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิจะไม่ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและตามที่มูลนิธิได้แจ้งไว้ในข้อ 4. ในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ หรือกรณีที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น มูลนิธิอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บุคคลหรือนิติบุคคลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

(ก) กลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง และบริษัทในเครือของมูลนิธิ: มูลนิธิจะแชร์หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในกลุ่มบริษัทของมูลนิธิ
(ข) ผู้รับเหมา/คู่สัญญา: ในกรณีที่มูลนิธิทำการจ้างผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการใดอันจำเป็นใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น รหัสไปรษณีย์ การวิเคราะห์ทางสถิติ หรือกิจกรรมออนไลน์ เว็บไซต์ของผู้รับเหมา/คู่สัญญาจะกำหนดให้ผู้รับเหมาดำเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ดี ห้ามมิให้ผู้รับเหมาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อสนับสนุนกิจกรรมหรืองานของมูลนิธิ
(ค) หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ง) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(จ) บุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
(ฉ) บริษัทผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน


มูลนิธิจะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้

ในกรณีที่มูลนิธิจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มูลนิธิทราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่มูลนิธิ

ในกรณีที่มูลนิธิใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม มูลนิธิจะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

ในกรณีที่มูลนิธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ กรณีที่ประเทศปลายทางที่อาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ มูลนิธิจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หรือเป็นการโอนถ่ายข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว มูลนิธิจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับมูลนิธิสิ้นผลบังคับไปอีกระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมูลนิธิจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ มูลนิธิจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ ตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิ (Data Retention Policy)

มูลนิธิจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสมเพื่อทำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูล ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น ตามนโยบายการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Data Disposal Policy)

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (Availability) และมูลนิธิจะมีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ

นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากมูลนิธิมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่มูลนิธิกำหนดขึ้น

มูลนิธิจะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่มูลนิธิกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่มูลนิธิกำหนดขึ้น

8.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับมูลนิธิเว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)

8.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิและขอให้มูลนิธิทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมว่ามูลนิธิได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

8.3 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจมูลนิธิในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน

8.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
2. เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและมูลนิธิฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
3. เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 8.3 และมูลนิธิไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
4. เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

1. เมื่อมูลนิธิอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ
2. เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
3. เมื่อข้อมูลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
4. เมื่อมูลนิธิฯ อยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอคัดค้านของท่านตามข้อ 8.3 เพื่อดูว่ามูลนิธิมีอำนาจตามกฎหมายให้ปฏิเสธคำคัดค้านของท่านได้หรือไม่

8.7 ท่านมีสิทธิร้องขอให้มูลนิธิดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากมูลนิธิฯ ไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ มูลนิธิ จะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

8.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่มูลนิธิ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากมูลนิธิปฏิเสธคำขอข้างต้น มูลนิธิจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล  
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล  
สิทธิขอคัดค้าน 30 วัน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล  
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล  
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 7 วัน

อนึ่ง การลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายและสัญญาที่ทำไว้กับมูลนิธิเท่านั้น ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับมูลนิธิ หรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการให้บริการ และข่าวสารจากมูลนิธิต่อไป

9. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น

9.1 มูลนิธิอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น โดยมูลนิธิจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย

(ก) บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(ค) วิธีการในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง

9.2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล มูลนิธิ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ


10. นโยบายคุกกี้ (Cookies)

คุกกี้ (Cookies) คือไฟล์ที่เว็บไซต์ที่ท่านเข้าชมสร้างขึ้น ซึ่งช่วยให้ท่านทำสิ่งต่างๆ ทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้นด้วยการบันทึกข้อมูลการท่องเว็บ โดยเว็บไซต์ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านลงชื่อเข้าใช้อยู่เสมอ จดจำค่ากำหนดเว็บไซต์ และมอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้แก่ท่าน

10.1 เราใช้คุกกี้อย่างไร?

เราจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้หรือ เทคโนโลยีใกล้เคียง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานแพลตฟอร์มและการเข้าถึงบริการของเราผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณีดังต่อไปนี้

(ก) เพื่อให้ท่านสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีของท่านในแพลตฟอร์มของเราได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
(ข) เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานบนแพลตฟอร์มของท่าน เนื้อหาข้อมูล รวมถึงรูปแบบแพลตฟอร์มที่ท่านได้ตั้งค่าไว้
(ค) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและเยี่ยมชมแพลตฟอร์มของท่าน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากที่สุด
(ง) เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมแพลตฟอร์มโดยรวม และนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

10.2 ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้

(ก) คุกกี้ประกอบการทำงานของแพลตฟอร์ม (Functionality Cookies): ใช้เพื่อการจดจำสิ่งที่ท่านเลือกหรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา และรูปแบบแพลตฟอร์ม
(ข) คุกกี้สำหรับการโฆษณา (Advertising Cookies): ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชม รวมไปถึงลักษณะการใช้งานของท่าน เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือ สื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน และประเมินประสิทธิผลของแคมเปญโฆษณาต่าง ๆ
(ค) คุกกี้ทางเทคนิค (Strictly Necessary Cookies): เป็นประเภทคุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานแพลตฟอร์ม เพื่อให้ท่านเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
(ง) คุกกี้เพื่อวัดผลการทำงานของแพลตฟอร์ม (Performance Cookies): ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มแบบไม่ระบุตัวตน และนำมาวิเคราะห์จำนวนและพฤติกรรมของผู้เข้าชม เพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
(จ) คุกกี้บุคคลที่สาม (Third-party Cookies): คุกกี้ชนิดนี้จะถูกกำหนดใช้โดยผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม อาทิ Google Analytics

10.3 การตั้งค่าคุกกี้

ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้บริการผ่านทางคุกกี้ ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือการตรวจวัด ท่านสามารถลบหรือปฏิเสธคุกกี้ หรือซอฟต์แวร์การตรวจวัดบางรายการผ่านทางบราวเซอร์ได้ โดยหากท่านนำคุกกี้ออก ท่านจะออกจากระบบเว็บไซต์ และระบบอาจลบค่ากำหนดที่บันทึกไว้ของท่าน ด้วยวิธีการดังนี้

  • การตั้งค่าคุกกี้ใน Chrome
  • การตั้งค่าคุกกี้ใน Safari และ iOS
  • การตั้งค่าคุกกี้ใน Internet Explorer
  • การตั้งค่าคุกกี้ใน Firefox
  • 11. ท่านจะติดต่อมูลนิธิได้อย่างไร

    หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อมูลนิธิได้ผ่านช่องทางดังนี้

  • อีเมล: thrmhc@gmail.com
  • โทร: 0 2696 4928 (วันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08.30-17.30 น.)
  • สถานที่ติดต่อ: มูลนิธิ แมค แฮปปี้ แฟมิลี่ 97/11 อาคารบิ๊กซีราชดำริห์ ห้องออฟฟิศ 1 ชั้นที่ 5 ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  • 12. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    ในกรณีที่มูลนิธิมีหน้าที่แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของมูลนิธิ รวมทั้งประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    13. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)

    หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่ามูลนิธิ ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อและ/หรือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

  • สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ทำหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.))
  • โทรศัพท์: 02-1416747
  • อีเมล: pr@mdes.go.th
  • ที่อยู่: 20 หมู่ 3 ชั้น 6-9 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
  • 14. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    มูลนิธิอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิ การดำเนินงานของมูลนิธิฯ และข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากท่าน โดยมูลนิธิ จะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง หรืออาจส่งประกาศให้ท่านทราบโดยตรง หรือผ่านเว็บไซต์ของมูลนิธิ https://rmhc.or.th/

    เมื่อท่านตกลงยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มูลนิธิ จะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใดๆ ของมูลนิธิ ถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์

    ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

    ฉบับปรับปรุงวันที่ 1 ธันวาคม 2564



    ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารของมูลนิธิฯ

    ลงทะเบียนเพื่อรับจดหมายข่าวและอ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจากครอบครัวของเรา รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวและใกล้ชิดกับเพื่อนและผู้สนับสนุนของมูลนิธิฯ